Art and human life are equally long and endless
It is my pleasure to write about Chakrabhand Posayakrit and his upcoming exhibitions in 2018. In one of his interviews he said the reason why he chose to study fine arts and sculpture was because he loved Thai culture and tradition: painting, sculpting, Khon performance, puppets performance, Thai traditional music. He is also interested in Thai traditional dancing. Over the past 10 years, his focus has been mainly on puppet making and performance as he created and improved the way to make puppets and perform puppet dancing. Furthermore, sculpting the Buddha image and painting realistic portraits were also his forte.
The Chakrabhand Posayakrit Foundation was established to preserve and maintain Thai art and Buddhism. They created teams of artists to restore mural paintings in temples, make bronze sculptures, repair ancient book cabinets, furniture, and puppets as well as making clothing for puppets.
The first rotating series of exhibitions by National Artist Chakrabhand Posayakrit will be held on Sunday 19 August – 25 December 2018 at 13.00 – 16.00 PM at the Chakrabhand Posayakrit Foundation in Bangkok
Chakrabhand began his primary and secondary education at Vajiravudh College which is a private school. Since he was a very talented student in the art of painting, Chakrabhand received full support from the school director. When he was just nine years old, the school director brought Chakrabhand, who painted a portrait of thePrince Chaofa Vajiralongkorn, to an audience with King Bhumibholadulyadej (Rama the IX) to give that portrait to the king.
Chakrabhand’s artistic talent was widely recognized despite the fact that he was so young. When he was around 16 years old, his father brought him to meet Professor Silp Bhirasri from Silpakorn University to train more in the art of painting. Later, Chakrabhand applied to Silpakorn University and received merit scholarships for good grades from the University when he was in the second year of his study until he graduated.
Apart from merit scholarships, Assistant Professor Fua Haripithak (the National Artist in Visual Arts 1985), complimented Chakrabhand on his color experimentation and artistic elements in the painting “Pran Boon, the hunter, captured Manorah, the Kinnaree” (Kinnaree is one of the female mythological creatures in Thai old literature). He said “This painting is a piece of mesmerizingly creative artwork."
In addition to this, Chakrabhand has made some notable accomplishments in his career over the years as follows;
- Bronze medal from the National Art Exhibition in 1965.
- Silver medals from the National Art Exhibition in 1965 – 1973.
- Excellent supporter in the conservation of Thai cultural heritage in 1989.
- Received an honorary doctorate degree in Applied Arts, Silpakorn University, 1994.
- Selected to be one of the 52 chief craftsmen of Rattanakosin period.
- Selected to be the National Artist in Visual Arts, 2000.
Some works of Chakrabhand can be seen in various locations in Bangkok, such as:
- Design for the stage curtain of the Thailand Cultural Center.
- Responsible for the repair of Hun Wangna (wooden puppets) which is a national heritage of Thailand. Along with this, complete research for every step was conducted and published as book “Hun Wangna” in 1997.
- Work as the project leader in mural paintings for Wat Tri Tossathep temple.
- Work as the project leader in mural paintings for Wat Khao Sukim temple.
Over a period of 50 years, the potential of Chakrabhand in artistic works was realized. Apart from his proficiency in paintings, his literary works are comparable to many famous Thai writers, His documentary travel guidebook “Sasiwimon Thongtheaw” was well received and was awarded as an excellent narrative documentary travel guidebook .
Currently, Chakrabhand’s house and workplace at Aekamai Road is also the location of Chakrabhand Posayakrit Foundation which collects knowledge of art and crafting as well as his collection of paintings. Everyone, especially newer generations, can study masterful works of art and be proud to preserve all of these national heritages for the next generation.
Also worth mentioning here is Chakrabhand’s wooden puppets set called “Talengpai” that he has created for several decades. All his wooden puppets are truly full of the spirits of Thai national heritage and are crafted beautifully with adorning genuine jewelry. People who see them are impressed by their beauty and have said that these puppets are “incomparably gorgeous”.
This year, Chakrabhand will be 75 years old (16 August 2018). The Chakrabhand Posayakrit foundation unanimously agreed to create an exhibition for this special occasion. This time the exhibition will be more diversified by rotating many sets of Chakrabhand’s art including, paintings, handicrafts, and wooden puppets. The foundation believes that the exhibition on this special occasion will be certainly beneficial to general audiences as well as school and university students.
Chakrabhand Posayakrit used to say that “the time flies so quick. Soon we all will be old. Like many people said that art life is so long life but human life is too short. For me, however, art and human life is equally long. It is indeed endless”.
ศิลปะและชีวิตยาวเท่ากัน…ไม่มีวันจบสิ้น
จานีน ยโสวันต์
ดิฉันรู้สึกยินดีที่ได้เขียนเกี่ยวกับอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤตและงานนิทรรศการที่กำลังมาถึงในปีพ.ศ. 2561 ในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่งอาจารย์เคยกล่าวถึงเหตุผลที่ท่านได้เรียนจิตรกรรมและประติมากรรมก็เพราะท่านรักศิลปะและประเพณีไทย การเขียนภาพ การปั้นรูป การแสดงโขน การแสดงหุ่นกระบอก ดนตรีพื้นบ้านไทย ท่าน ยังมีความสนใจในการรำไทยอีกด้วย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ความ
สนใจของท่านอยู่ที่การทำหุ่นกระบอกและการแสดงหุ่นกระบอกเพราะท่านได้สร้างและปรับปรุงแก้ไขการทำและวิธีเชิดหุ่นกระบอก นอกเหนือไปจากนี้การปั้นพระพุทธรูปและการเขียนภาพเหมือนก็เป็นความถนัดของท่าน
มูลนิธิจักรพันธุ์ โปษยกฤตก่อตั้งขึ้นมาเพื่อสงวนและดูแลรักษาศิลปะไทยและศาสนาพุทธ มีทีมงานศิลปินคอยบูรณะภาพเขียนฝาผนังในวัด ทำรูปปั้นสำริดซ่อมแซมตู้หนังสือโบราณ เฟอร์นิเจอร์ หุ่นกระบอกและเสื้อผ้าสำหรับหุ่นกระบอกงานนิทรรศการหมุนเวียนจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยศิลปินแห่งชาติ จักรพันธุ์โปษยกฤติ จะจัดขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม – 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ตั้งแต่เวลา 13.00 – 16.00 น. ที่มูลนิธิจักรพันธุ์ โปษยกฤต กรุงเทพมหานคร
Cr. ATM Spray
Cr. ATM Spray
จักรพันธุ์เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยที่เป็นโรงเรียนเอกชน ด้วยความที่เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ในการเขียนรูปมาก ท่านผู้บังคับการโรงเรียนจึงสนับสนุนการเขียนรูปของจักรพันธุ์อย่างเต็มที่ ครั้งหนึ่งที่จักรพันธุ์อายุเพียง 9 ขวบ ท่านผู้บังคับการโรงเรียนได้นำพาจักรพันธุ์พร้อมด้วยผลงาน “พระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์” ที่จักรพันธุ์เป็นผู้เขียนขึ้นเข้าเฝ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
ด้วยพรสวรรค์อันเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไปทั้งที่ยังมีอายุไม่มากนี้เองนี้เอง บิดาของเขาเลยพาไปพบกับท่านศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรีแห่งมหาวิทยาลัยศิลปากรเพื่อฝึกฝนและรับการถ่ายทอดวิชาการเขียนภาพเมื่อจักรพันธุ์อายุได้ 16 ปี ต่อมาเมื่อเข้าศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร จักรพันธุ์เป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนเรียนดีมาตลอดการศึกษาตั้งแต่ชั้นปีที่สองจนจบการศึกษาและเป็นที่รักของบรรดาเพื่อนพี่
น้องในมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก
นอกเหนือจากทุนเรียนดีแล้ว อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ (ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ พ.ศ. 2528) ได้ให้คำชมเชยการทดลองโครงสีและองค์ประกอบในผลงาน “พรานบุญจับนางมโนราห์” (นางมโนราห์เป็นนางกินรีซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายไทยโบราณ) ว่าเป็นผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นเยี่ยม
นอกเหนือไปจากนี้ จักรพันธุ์ได้รับความสำเร็จในอาชีพตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังจะยกตัวอย่างได้ดังต่อไปนี้ เช่น
- รางวัลเหรียญทองแดงจากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2508
- รางวัลเหรียญเงินจาการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2508- 2516
- รางวัลผู้สนับสนุนดีเด่นในการอนุรักษ์มรดกไทยประจำปีพ.ศ. 2532
- ศิลปะดุษฎีบัญฑิตกิติมศักดิ์ สาขาประยุกต์ศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรพ.ศ. 2537
- ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 52 นายช่างเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
- ได้รับการคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ พ.ศ. 2543
ผลงานบางชิ้นของจักรพันธุ์สามารถพบเห็นได้ในสถานที่หลายแห่งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ดังเช่น
- ออกแบบม่านเวทีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
- เป็นผู้รับผิดชอบดูแลซ่อมแซมหุ่นวังหน้าซึ่งเป็นสมบัติของชาติและได้ทำการค้นคว้ารายละเอียดทุกขั้นตอน พิมพ์เป็นหนังสือหุ่นวังหน้า เมื่อปีพ.ศ. 2540
- อำนวยการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดตรีทศเทพ กรุงเทพ
- อำนวยการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดเขาสุกิม จังหวัดจันทบุรี
ความสามารถของจักรพันธุ์เป็นที่ประจักษ์มาตลอดระยะเวลารวมกว่า 50 ปีนอกจากจักรพันธุ์จะมีความเชี่ยวชาญในการเขียนภาพแล้ว ผลงานการประพันธ์หนังสือก็สามารถเทียบได้กับนักเขียนที่มีชื่อเสียงหลายท่าน ผลงานหนังสือ“ศศิวิมลท่องเที่ยว” มีผลตอบรับเป็นอย่างดีและได้รับรางวัลหนังสือท่องเที่ยว
เขียนเชิงสารคดียอดเยี่ยม
ตุ๊กตาโกนจุก
ตุ๊กตาฝีมือท่านอาจารย์จักรพันธ์ุ ขนาดความสูง1คืบฝ่ามือตัวนี้ ละเอียดงดงามมากมาก
หุ่นหรือตุ๊กตาฝีมือท่านอาจารย์ ได้รับการยกย่องระดับสากล เคยแสดงประชันชิดกับเครื่องเพชรระดับโลก เครื่องเพชรที่จัดแสดง ยังสู้รัศมีแห่งความงามของตุ๊กตาท่านมิได้เลย ตัวเล็ก หน้าเล็กเท่าหัวแม่โป้ง น่ารัก ประเมินค่ามิได้
ตุ๊กตาโกนจุก
ตุ๊กตาฝีมือท่านอาจารย์จักรพันธ์ุ ขนาดความสูง1คืบฝ่ามือตัวนี้ ละเอียดงดงามมากมาก
หุ่นหรือตุ๊กตาฝีมือท่านอาจารย์ ได้รับการยกย่องระดับสากล เคยแสดงประชันชิดกับเครื่องเพชรระดับโลก เครื่องเพชรที่จัดแสดง ยังสู้รัศมีแห่งความงามของตุ๊กตาท่านมิได้เลย ตัวเล็ก หน้าเล็กเท่าหัวแม่โป้ง น่ารัก ประเมินค่ามิได้
ปัจจุบันบ้านที่ทำงานของจักรพันธุ์ในซอยเอกมัยได้จัดตั้งเป็นมูลนิธิจักรพันธุ์โปษยกฤต เพื่อเป็นแห่งรวบรวมสรรพวิชาเชิงช่างและเป็นสถานที่ที่รวบรวมผลงานภาพเขียนของอาจารย์จักรพันธุ์ ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่สามารถศึกษาผลงานศิลปะอันยอดเยี่ยมและมีความภูมิใจในการสงวนรักษาสมบัติแห่งชาติให้กับคนรุ่นหลังสืบไป
ที่ควรนำมากล่าวถึงในที่นี้ก็คือผลงานหุ่นกระบอกของอาจารย์จักรพันธุ์ในชุดที่มีชื่อว่าตะเลงพ่ายที่ท่านได้จัดทำขึ้นมาเป็นเวลาหลายสิบปีจนถึงปัจจุบัน หุ่นกระบอกที่จักรพันธุ์สร้างขึ้นล้วนเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณในความเป็นชาติไทยอย่างแท้จริงหุ่นกระบอกทุกตัวมีความอ่อนช้อย วิจิตร สร้างขึ้นด้วยการประดับอัญมณีแท้เกือบทั้งหมด ยังความตราตรึงใจแก่ผู้พบเห็น ผู้ได้ชื่นชมเป็นอันมาก หลายท่านที่ได้ชมหุ่นชุดนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “งามวิเศษหาใดเปรียบ”
ในปีนี้จักรพันธุ์จะมีอายุ 75 ปี (วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561) มูลนิธิจักรพันธุ์โปษยกฤต จึงมีมติเห็นชอบให้ทำการจัดแสดงผลงานเนื่องในวาระพิเศษอันเป็นมงคลยิ่งนี้ โดยการแสดงครั้งนี้จะจัดแสดงในรูปแบบหลากหลาย มีการจัดแสดงทั้งผลงานจิตรกรรม ประณีตศิลป์ และผลงานหุ่นกระบอก โดยจะเป็นนิทรรศการหมุนเวียนไปตามระยะเวลาอันสมควร ทั้งนี้ทั้งนั้นการแสดงผลงานของท่านในวาระอันพิเศษนี้เชื่อว่าจะยังประโยชน์ให้แก่ประชาชน นักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมากแน่นอน