Saturday, May 4, 2019

Royal Coronation 4-5 May 2019










HM the King wears Crown of Victory

His Majesty King Maha Vajiralongkorn on Saturday wore a golden-tiered crown, the highlight of the three-day Royal Coronation ceremony, two years after the monarch ascended the throne









พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ สถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี...

เมื่อเวลา 12.25 น.วันที่ 4 พ.ค.62 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนา สมเด็จพระราชินีสุทิดา ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี


























The 66-year-old monarch, dressed in a bejewelled golden robe, was handed the Crown of Victory that weighs 7.3 kilograms, which he placed on his head. HM the King then issued his First Royal Command: “I shall continue to protect, develop and reign with righteousness for the benefit and happiness of the people.”






On Saturday 4 May 2019 in the morning, the Ambassador of Singapore to Thailand, as Dean of the diplomatic corps, and her spouse will be granted an audience with His Majesty King Maha Vajiralongkorn Bodindradebayavarangkun at Baisal Daksin Throne Hall and Amarindra Vinicchaya Throne Hall in the Grand Palace. 



In the afternoon, representatives of the diplomatic corps in Thailand will be granted an audience with His Majesty the King at Amarindra Vinicchaya Throne Hall.





After the crowning and investiture ceremony, His Majesty King Maha Vajiralongkorn presents the First Royal Command.


I shall continue, protect and reign with righteousness for the benefit of the people : His Majesty the King















































Royal Purification ceremony
















สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเศวตพัสตร์ สรงพระมุรธาภิเษกโดยสหัสธารา สมเด็จพระสังฆราช ถวายน้ำพระพุทธมนต์















5 พ.ค. 2562

พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ รวม 10 พระองค์ ดังต่อไปนี้

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน ขัตติยราชนารี
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ
สมเด็จพระสังฆราชถวายพระธรรมเทศนา "ทศพิธราชธรรม"

ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ช่วงเช้า วันที่ 5 พ.ค.ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ถวายทศพิศราชธรรมจริยากถา หรือธรรมะ 10 ประการที่พระราชาพึงทรงยึดถือปฏิบัติ แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

บรมราชาภิเษก : สมเด็จพระสังฆราชถวายพระธรรมเทศนา "ทศพิธราชธรรม"
หนึ่งในธรรมะ 10 ประการที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงแสดง คือ คือ มัททวะ ความอ่อนโยน พระมหากษัตริย์พึงมีพระราชอัธยาศัยอ่อนโยน ละมุนละม่อม มีความอ่อนน้อม ไม่ถือพระองค์ด้วยความดื้อรั้น เมื่อมีผู้กราบบังคมทูลพระกรุณาด้วยเหตุผลของบัณฑิต ก็ควรทรงพึงสดับตรับฟังโดยถี่ถ้วน






ภาพแห่งความปลื้มปีติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรย "ดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง" พระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และรอยแย้มพระสรวลของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี

เมื่อวันที่ 4 พ.ค.62 สำนักพระราชวังได้เผยแพร่ภาพพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพระราชพิธีในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องขัตติยราชวราภรณ์ และ พระแสงราชศัตราวุธ ทรงสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงโปรยดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง พระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงเลี้ยงพระ














The Royal Household Bureau has released photos of Royal family members while watching His Majesty King Maha Vajiralongkorn attending the Song Muratha Bhisek or Royal Purification ceremony at Chakrabat Biman Royal Residence on Saturday.






In the photos Queen Suthida and HM the King’s three children, Their Royal Highnesses Princess Bajrakitiyabha, Princess Sirivannavari Narirat-ana and Prince Dipangkorn Rasmijoti watched the ceremony together.











     His Majesty the King Maha Vajiralongkorn





ในช่วงเย็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคตามโบราณราชประเพณี ระยะทาง 6.77 ก.ม.เพื่อให้ประชาชนเฝ้าชมพระบารมี เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับพระราชยานพุดตานทอง เสด็จออกจากพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท จากนั้นขบวนพระราชอิสริยยศได้ออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรีเข้าสู่ถนนหน้าพระลานและถนนราชดำเนินเพื่อไปยังพระอารามหลวง 3 แห่ง คือ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ตลอดเส้นทางมีพสกนิกรเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก









Thailand King's Coronation

Thailand’s King Maha Vajiralongkorn is carried on a palanquin through the streets outside the Grand Palace for the public to pay homage to him on the second day of his coronation ceremony in Bangkok, Sunday, May 5, 2019. Vajiralongkorn was officially crowned Saturday amid the splendor of the country's Grand Palace, taking the central role in an elaborate centuries-old royal ceremony that was last held almost seven decades ago. (AP Photo/Gemunu Amarasinghe)



ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเสด็จทางสถลมารคเมื่อวานนี้ ..สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี ทรงเปลี่ยนพระทัยจากการรอรับเสด็จในพลับพลาพิธี เป็นเสด็จในขบวนในฐานะพระราชองครักษ์ เพื่อทรงแสดงถึงพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ ที่จะทรงปกป้องพระมหากษัตริย์ไว้ยิ่งชีพ ร่วมกับข้าราชบริพารและประชาชนทุกคน ...ดังนั้น เมื่อก่อนขบวนออก 2 ชั่วโมงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา จึงทรงตัดสินพระทัยลงตามเสด็จสมเด็จฯ โดยทันที แม้ทรงไม่ได้ทรงเตรียมพระองค์มา เช่นเดียวกันกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ

ประชาชนที่เปล่งเสียงทรงพระเจริญตลอด 6 ชั่วโมงที่เสด็จพระราชดำเนินผ่านนั้น ดังมากจนขบวนไม่ได้ยินเสียงกลองที่ให้จังหวะ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี ทรงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการทรงเปล่งเสียงกลองใหญ่ให้จังหวะกับขบวนด้วยพระองค์เอง.... หลังจากนั้นข้าราชพริพารและทุกคนจึงช่วยกันให้จังหวะกับกองทหาร

ประเทศเรามีบุญเหลือเกินที่มีพระมหากษัตริย์และเจ้านายที่เข้มแข็งเช่นนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ คงทรงทราบว่า พระราชยานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่ทรงสุขสบายอะไร เพราะขยับพระองค์ไม่ได้ รอบๆ ก็มีลวดลายแข็งไม่ใช่บุนวม ที่วางพระบาทก็ยังไม่มีที่ขยับเลย ขบวนใช้เวลาเดินถึงแต่ละวัดก็ชั่วโมงกว่า และเมื่อลงพระราชยานก็ทรงปฏิบัติพระราชพิธีอีกเกือบ 50 นาที เป็นเช่นนี้ทั้ง 3 วัด เมื่อคืนเริ่ม16.00น เสร็จหมาย 24.00น. แต่เพื่อจะได้ให้ประชาชนได้เห็นในหลวงกันทุกคน ท่านจึงทรงทำตามที่พระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนๆได้ทรงปฏิบัติสืบต่อกันมา และนี่คงเป็นเหตุผลที่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงตัดสินพระทัยร่วมเสด็จข้างพระองค์ในหลวงตลอดเวลา ด้วยความรัก ห่วงใย และมีน้ำพระทัยที่จะถวายความจงรักภักดีเป็นที่สุด
สีเหลืองๆตามข้างทางไม่ใช่ดอกดาวเรือง แต่เป็นสีเสื้อประชาชนที่มาร่วมรับเสด็จชื่นชมพระบารมีกันมืดฟ้ามัวดินเหมือนเช่นเดิม เป็นบุญเหลือเกินที่เกิดมาใต้ผินแผ่นดินไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงปกครอง.. ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


Cr:ภรรยา รองเลขาธิการพระราชวัง







Her Majesty the Queen Suthida



       
                            Her Royal Highness Princess Bajrakitiyabha.













พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย สมเด็จพระเทพฯทรงถวายพระพรชัยมงคล

เมื่อวันที่ 4 พ.ค.62 เวลาประมาณ 15.00 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มายังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์บนพระราชบัลลังก์ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร



โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี คณบดีทูตและคณะทูตานุทูตต่างประเทศประจ าประเทศไทย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะ ประธานศาลฎีกาและคณะ ประธานองค์กรอิสระและคณะข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และสมาชิกจุลจอมเกล้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท




ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา   กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ในนาม พระบรมวงศานุวงศ์ ความว่า

"ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

"ข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติปราโมทย์เป็นพ้นประมาณที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบพระบรมราชสันตติวงศ์ฉลองพระองค์สมเด็จพระบรมชนกนาถ และได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลและแสดงความจงรักสวามิภักดิ์ในใต้เบื้องพระยุคลบาท ในวาระแห่งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

"ในอุดมศุภสมัยอันพิเศษนี้ ข้าพระพุทธเจ้าเหล้าพระบรมวงศานุวงศ์จึงขอพระราชทานยกสัจธรรมขึ้นเป็นที่ตั้งร่วมจิตถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงจะตั้งตนตั้งใจไว้ให้มั่นคงในความซื่อสัตย์สุจริต และในความจงรักภักดี จะมุ่งมั่นประพฤติตนปฏิบัติงานตามฐานะและหน้าที่ของตน โดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถเพื่อธำรงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์





  King proclaims himself the Royal Patron of Buddhism




"กับขอพระราชทานตั้งสัตยาธิษฐานถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และเทวาดิเทพน้อยใหญ่ ซึ่งรักษาสยามรัฐสีมาราไชยสวรรค์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์ จงพร้อมกันอำนวยศรีสวัสดิมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ทรงสถิตสถาพร ในมไหยสุริยะสมบัติ เป็นร่มรัตนฉัตรปกประเทศ ให้เป็นบุญเขตอันร่มเย็นเป็นสุข แก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และประชาชนถ้วนหน้า ตลอดไปชั่วกาลนาน"

                    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

                  General Prayut Chan-ocha, Prime Minister





จากนั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลในนามคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลในนามสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลในนามของข้าราชการตุลาการ

Cr. ภาพจากสำนักพระราชวัง

No comments:

Post a Comment

temp song