Mr. Keratesak PhuKaoluan : Mayor of Krabi Province
นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่
เข้าร่วมงานเปิดหอศิลป์บ้านศิลปินแห่งชาติ
นายกมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรมและสื่อผสม) พุทธศักราช 2540 โดยหอศิลป์แห่งนี้ตั้งอยู่ในบ้านเกิดย่านวงเวียนใหญ่ ฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร เลขที่ 111/1 เป็นอาคาร 3 ชั้น จัดแสดงผลงานภาพศิลปะ ที่ประกอบด้วยจิตรกรรมและงานสื่อผสมร่วมสมัย เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านศิลปะและยังมีการรวบรวมผลงานประวัติการเป็นศิลปินตั้งแต่วัยเยาว์จนถึง ปัจจุบัน...โดยในงานได้รับเกียรติจากนายอิทธพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และผู้บริหารของกระทรวงวัฒนธรรม มาทำพิธีเปิดหอศิลป์บ้านศิลปินแห่งชาติแห่งนี้ด้วย
I have been walking on this path for so long. Life and time are moving forward. I just realize that making effective arts requires honesty and sincerity as a foundation. The value of a human is measured by the result of the one’s work and it will definitely have the greater value.
—Kamol Tassananchalee
“ข้าพเจ้าเดินอยู่บนเส้นทางนี้มายาวนาน ชีวิตและวันเวลาที่ผ่านไป พบว่าการทำงานศิลปะให้ได้ผลดีนั้น ต้องมีพื้นฐานจากความจริงใจบริสุทธิ์ใจเป็นที่ตั้ง และค่าของคนคือผลของงาน และมีคุณค่ามหาศาลตลอดไป”
— กมล ทัศนาญชลี
นายอิทธพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
Ittipol Khunpluem : Ministry of Culture Thailand
Ittipol Khunpluem : Ministry of Culture Thailand
Kamol Tassananchalee : National Artist .
กมล ทัศนาญชลี.ศิลปินแห่งชาติ
ผมจบจากโรงเรียนเพาะช่างในปีพ.ศ. 2507 หลังจากนั้นผมไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ในปีพ.ศ. 2512 ผมย้ายจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยและได้รับทุนการศึกษาจาก Otis Art Institute of Los Angeles รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทในปีพ.ศ. 2520 ในสหรัฐอเมริกาหลังจากนั้นผมไปเป็นอาจารย์สอนศิลปะที่
Lamar University เมืองโบมองต์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาในปี 2520 และที่University of Californiaเมืองเบิร์กเลย์รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริการะหว่างปีพ.ศ. 2522 -2524
Kamol Tassananchalee was appointed a Thai National Artist for visual arts in 1997. He has received more than 14 Ph.D. honorary degrees from Thai universities
อาจารย์กมล ทัศนาญชลีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ในปีพ.ศ. 2540 ท่านได้รับปริญญาดุษฎีบัญฑิตกิติมศักดิ์ 14 ใบจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทย
คุณนวลศรี ทัศนาญชลี :อ.กมล ทัศนาญชลี
รมต.อิทธิพล คุณปลื้ม
คุณหญิงปัทมา ลี้สวัสตระกูล
Kamol Tassananchalee was appointed a Thai National Artist for visual arts He has spent more than 17 years with the project to develop and transfer the knowledge of art to young artists throughout Thailand. Starting with the cooperation of the first minister of the ministry of culture to the present minister: Office of Contemporary Art and Culture and Thai Art Council USA.
He brought artists to the Grand Canyon hundreds of times and amazed artists who went to meet him in the USA. A a field trip project to visit the Museum of Contemporary Native Arts and Canyon Road Contemporary Art which is on a road with almost 200 art galleries. They also have workshops and art lectures.
อาจารย์กมลใช้เวลามากกว่า 17 ปีกับโครงการพัฒนาและถ่ายทอดความรู้ด้านศิลปะให้กับศิลปินรุ่นเยาว์ทั่วประเทศไทย เริ่มด้วยการร่วมมือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมคนแรกมาจนถึงคนปัจจุบัน สำนักงานศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัยและสภาศิลปะไทยสหรัฐอเมริกา
อาจารย์กมลพาศิลปินไปยังแกรนด์ แคนยอนหลายร้อยครั้งและสร้างความประหลาดใจให้กับศิลปินที่ไปพบท่านในสหรัฐอเมริกา โครงการ Young Artist Talent เป็นการทัศนศึกษาดูงานเยี่ยมชมMuseumof Contemporary Native Arts และ Canyon Road Contemporary Art ที่ตั้งอยู่บนถนนที่มีห้องแสดงงานศิลปะเกือบถึง 200 แห่ง และยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อป และการฟังบรรยายเกี่ยวกับศิลปะ
Attapol Komwong
Attapol Komwong :Mr. Keratesak PhuKaoluan : Mayor of Krabi Province
Doytibet Duchanee
Prof. Decha Warashoon : National Artist
Thank you :Suchai Pornsirikul
หอศิลป์ กมล ทัศนาญชลี.
JY: What more would you like to tell us about your life.
KT: When I was around 27- 28 years old, the news agency USIA came to me to shoot a video interview and the Freedom Magazine contacted me to publish an interview about my life.
46 years ago, I brought a Thai national flag to the US due to my achievement as an artist. That was one of the best moments in my life. De Young Museum in San Francisco, California and the Palace of Legion, San Francisco bought contemporary artworks for the first time in their history. At that time, I was a lecturer at Berkeley.
JY: Please tell us about the project to support art teachers and young artists that you are a part of?
KT: “Ton Mai Roi Om” is an important ongoing project in which we artists nurture new seedlings of artists to prosper and be successfu. We now have many supportive organizations such as the Department of Cultural Promotion, Office of Contemporary Art and Culture. Many national artists in visual arts are the spearheads from the outset starting such as Thawan Duchanee, Prayat Pongdam, etc. The first year of the project began at Rajabhat University ChiangRai Province in the North of Thailand. This project sparks much interest from elementary, secondary, high school and university students from nearby provinces throughoutThailand. The whole project lasted two days. The number of participants exceeded 2,000 people per day so we had to change the location from four large tents to the large convention hall.
The occurring problem was that the equipment was insufficient but most students prepared their equipment themselves so the activity went smoothly. Due to its popularity, the project was organized four times every year and rotated to different regions in the North, South, Northeast, East and Central regions. Apart from visual arts, artistic writing and performances were added to the project and these formed the three main branches of art. This is the good way for the national artists in the three branches to transfer their knowledge and experiences to the younger generation of artists. There were around 10 – 11 stages of knowledge for the students to participate in. The national artists in the central regions were the largest among all the groups. Sometimes there were 15 – 22 national artists in various branches such as Fine Art, Graphic Arts, Mixed Media, Photography, Architecture, Sculpture, Poetry and Short Stories. Performance depended on each region: Traditional Art, Traditional musical instruments such as Sabudchai drum, Thai flute as well as Thai traditional and Country Singing.
After we took care of the new seedlings of artists, it was about time for us to find the uncut diamonds in the mud. Once we found these diamonds, we faceted them into beautiful gems. Simply put, we support these talented young artists to be confident and skillful in their own ways. For this project, hundreds of university students throughout the country applied to this camp. At first 70 people from all regions were selected and they had to pass some challenges. In the end, only 10 – 11 students were chosen to travel to the USA to exhibit their works, have a field trip, do some workshops and stay with me for two weeks. During this time, I brought them to many famous art galleries and to meet some professional artists as well as visit art departments at several universities.
จานีน: อาจารย์อยากเล่าเรื่องอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตของอาจารย์อีกบ้างคะ
กมล: ตอนที่ผมมีอายุประมาณ 27 -28 ปีสำนักข่าว USIA มาหาผมเพื่อขอถ่ายทำการสัมภาษณ์เป็นวิดีโอและนิตยสาร Freedom Magazine ติดต่อผมเพื่อตีพิมพ์บทสัมภาษณ์เกี่ยวกับชีวิตของผม
46 ปีที่แล้วผมอัญเชิญธงชาติไทยไปยังสหรัฐอเมริกาเนื่องมาจากความสำเร็จของผมในฐานะที่เป็นศิลปิน นั่นเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผมDe Young MuseumและPalace of Legion เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียซื้อผลงาน
จานีน: อยากให้อาจารย์พูดถึงที่มาโครงการสนับสนุนครูศิลปะและศิลปินรุ่นเยาว์ที่อาจารย์ดูแลอยู่
กมล: ต้นไม้ร้อยอ้อมเป็นโครงการสำคัญที่เราต้องเพาะเมล็ดพันธุ์ศิลป์ของประเทศให้งอกงามต่อไปจึงเป็นที่มาของโครงการนี้ เราเริ่มจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรมสำนักงานศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัยที่มีศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์เป็นหัวหอกตั้งแต่ครั้งแรกเช่น อ.ถวัลย์ ดัชนี อ.ประหยัด พงษ์ดำ ครั้งแรกจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ จังหวัดเชียงราย ได้รับความสนใจจากครู อาจารย์ นักเรียนชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษามาจากจังหวัดใกล้เคียงและทั่วประเทศโครงการทั้งหมดใช้เวลาสองวัน จำนวนของผู้เข้าร่วมมากกว่า 2,000 คนต่อวันจึงต้องย้ายจากเต้นท์ขนาดใหญ่ 4 เต้นท์มาเป็นหอประชุมใหญ่ ปัญหาที่เกิดขึ้นคืออุปกรณ์ไม่เพียงพอแต่นักเรียนส่วนใหญ่ก็เตรียมอุปกรณ์มาเองด้วยกิจกรรมจึงดำเนินไปอย่างเรียบร้อย เนื่องมาจากความนิยมจึงทำให้มีการจัดโครงการ 4 ครั้งในแต่ละปี สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปยังภาคเหนือ ใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ
ตะวันออก และภาคกลาง
จากทัศนศิลป์ก็จะมีวรรณศิลป์เพิ่มขึ้นและในที่สุดก็มีศิลปะการแสดงครบทั้ง 3สาขาหลัก เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ ปรัชญา ความคิดโดยตรงของศิลปินแห่งชาติทั้ง 3 สาขาไปยังศิลปินรุ่นใหม่ และแบ่งเป็นฐานความรู้ได้ 10 ถึง 11 ฐานให้นักเรียนเข้าร่วม ศิลปินแห่งชาติจากภาคกลางมาเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดบางครั้งก็มีศิลปินแห่งชาติ 15 – 22 ท่านจากสาขาต่างๆ เช่นจิตรกรรม ภาพพิมพ์สื่อผสม การถ่ายภาพ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม บทกวี และเรื่องสั้นศิลปะการแสดงก็แล้วแต่ภูมิภาค ศิลปะพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้านเช่นกลองสะบัดชัยการเป่าขลุ่ยไทย การร้องเพลงพื้นบ้านและร้องเพลงลูกทุ่ง
หลังจากที่เราจัดการเรื่องการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ศิลปินใหม่แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะหาเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนที่ยังอยู่ในโคลนตม หลังจากที่เราพบเพชรเหล่านี้แล้วจึงเจียระไนให้เป็นอัญมณีที่สวยงามต่อไป กล่าวง่ายๆก็คือเราสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ให้มีความมั่นใจและมีทักษะในทางของตนเอง สำหรับโครงการนี้นักศึกษามหาวิทยาลัยหลายร้อยคนจากทั่วประเทศสมัครเข้ามาอยู่ในค่ายนี้ ตอนแรก 70คนจากทั่วภูมิภาคถูกเลือกเข้ามาและต้องทำการผ่านด่านต่างๆ ในท้ายที่สุดคัดเหลือนักศึกษาเพียง 10 – 11 คนที่ได้รับเลือกเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อแสดงผลงาน ไปทัศนศึกษาดูงาน ทำเวิร์คช็อปและพักอยู่กับผมเป็นเวลาสองสัปดาห์ ในช่วงเวลานี้ผมจะพาไปชมแกลเลอรี่งานศิลปะที่มีชื่อเสียง ไปพบปะพูดคุยกับศิลปินมืออาชีพและเยี่ยมชมคณะศิลปะของมหาวิทยาลัยต่างๆ
No comments:
Post a Comment