Sunday, October 15, 2017

Somdej Ya

































Janine Yasovant: Writer


It was not easy for a common Thai woman to marry a Thai prince who studied medicine in Boston, Massachusetts. When she was young, her name was Sangwan Chukramol. She was a student who received a scholarship to study nursing in Boston. The man who fell in love with her was a first year student at Harvard medical school. That man was the son of King Chulalongkorn (Rama V). Later, Thai people regarded him as the father of Thai medicine. During his studies, he once wrote a letter to tell his friend "Ms. Sangwan is so beautiful." His name was also given to a university in the South of Thailand where I received my bachelor's degree, now officially called the Prince of Songkla University.












For many years, I followed news and activities of the princess mother, known as Somdej Prasrinakarintra Bromratchachonnanee (Sangwan Chukramol) and the royal family. Thai people called her "Somdej Ya". She was a remarkable woman who always worked hard for her country and she was a role model for her children. Her eldest daughter was Princess Galyani Vadhana, her second son was King Anantha Mahidol (Rama VIII) and her youngest son is the current King Bhumibhol Adulyadej (Rama IX) .











I had an opportuny to attend French classes at the Alliance Francais Chiang Mai branch where princess Galyani Vadhana was an honorary president. She usually went with her mother to visit Thai villagers in remote areas in every part of Thailand. People always asked Somdej Ya why she always worked so hard although she was very old. On many occasions, she also visited hill tribe people and encouraged them to stop growing opium and marijuana and persuaded them to grow flowers, vegetables and fruits instead. Doi Kham, one of the royal projects, buys those agricultural products from the villagers and hill tribe people. To change the way of life of villagers at that time was not easy. Eventually, this project was well received and the standard of living of people there was changed for the better.

When I attended Prince of Songkla University, the princess Galyani Vadhana was teaching French in the faculty of Humanity and I was a student in her class. The students asked her continuously about Somdej Ya. She always smiled and told us about some important activities that she and her mother did as well as the hardship in working and travelling to the countryside with groups of doctors, nurses, dentists, ophthalmologists and surgeons to help people there. She also noted that Somdej Ya was a very strong and healthy little woman.

I had read "Busy Fingers" (Time is a very precious thing) which was written by Princess Galyani Vadhana. This book told us about Somdej Ya, who was 84 years old in 1984, and her hobbies. The photobook has lovely pictures of the handicraft collections that were made by Somdej Ya to sell at charitable events. Some of them were dried flowers, earthenware, and embroidery. It shows that the princess' mother loved to do artistic works when she had free time, and she revealed that she had no formal training, but she did them simply out of love.

She usually went to Lausanne, Switzerland to rest for brief periods of time. Later, the Thai Army and other organizations constructed the Doi Tung palace in Chiang Rai province. With this news, Thai people were delighted when she came back to rest in Thailand and resided at Doi Tung palace.

In October 1992, the parade of Tung moved to Mae Faluang. Thai people in Chiang Rai and neighboring provinces arranged a Tung procession to welcome Somdej Ya and to celebrate her birthday. At that time she was 95 years old. The parade of Tung walked up to Prathat Doi Tung temple. Generally, this ceremony was very important to Chiang Rai people and it was held every year, but that year was most special for them because Somdej Ya was widely loved by her people.































































































Flora Talk  ตานหาแม่ฟ้าหลวง  3
"กรองผกา..บูชาความดีพระสร้อยศรีเมือง....คิดถึงสมเด็จย่า"
18 กรกฎาคม  น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
วันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในรัชกาลที่ 9
ผลงานขันดอก โดยฝีมือการจัดดอกไม้ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ชาวบ้าน ตัวบุคคล คณะบุคคลและสถาบันการศึกษา รวม 24 หน่วยงาน เพื่อน้อมถวายสมเด็จย่า เนื่องในงาน"ตานหาแม่ฟ้าหลวง"ณ อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง(ไร่แม่ฟ้าหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
บุญพีร์ พันธ์วร เรื่องและภาพ
18 กรกฎาคม 2563








'Tung' is a handmade traditional flag used in ceremonial events related to Buddhism and official Lanna celebrations. Tung has been integrated with the lifestyle Northern Thai people for some time. The details and kinds of Tung as well as the usage are quite different. Each one has various patterns and colors. Moreover, many people especially women put on traditional Thai-Lanna and hill tribe costumes. Tung is created because of the faith and love for the princess mother. Mae Faluang literally means "the heavenly royal mother". In the evening, there were also some ceremonies and outdoor stage performances. That year was the greatest ceremony they had ever arranged.










จานีน ยโสวันต์

ไม่ได้เป็นการง่ายเลยที่สุภาพสตรีไทยสามัญชนผู้หนึ่งได้สมรสกับเจ้าชายชาวไทยที่ไปศึกษาแพทย์ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซท ตอนนั้นสตรีผู้นั้นมีชื่อว่าสังวาลย์ ชูกระมล เป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนเรียนวิชาพยาบาลที่บอสตัน บุรุษผู้หนึ่งที่มีความรักให้กับนางสาวสังวาลย์ พระองค์ท่านผู้ซึ่งเป็นนักศึกษาปีแรกของมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาวาร์ด ผู้เป็นพระโอรสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ต่อมาชาวไทยได้ขนานพระนามพระองค์ท่านเป็นพระบิดาแห่งการแพทย์ไทย ในช่วงที่ศึกษาอยู่ครั้งหนึ่ง พระองค์ท่าน เคยเขียนจดหมายไปหาเพื่อนแล้วบอกเพื่อนเป็นร้อยกรองว่า "แม่สังวาลย์ งามจริงแท้ แกเอ๋ย" พระนามของท่านยังเป็นชื่อของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคใต้ที่ดิฉันเคยเรียน จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อว่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์







                   สมเด็จพระบรมราชชนก สมเด็จพระบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ

















เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่ดิฉันติดตามข่าวสารและกิจกรรมของสมเด็จพระชนนีหรือสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและพระราชวงศ์ ชาวไทยเรียกพระองค์ว่าสมเด็จย่า พระองค์เป็นสตรีที่ทำงานหนักเพื่อประเทศชาติและเป็นแบบอย่างให้กับพระราชธิดาองค์โตคือสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาและพระราชโอรสทั้งสองพระองค์คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช(รัชกาลที่ 9)













Flora Talk  ตานหาแม่ฟ้าหลวง  4
"กรองผกา..บูชาความดีพระสร้อยศรีเมือง....คิดถึงสมเด็จย่า"
18 กรกฎาคม  น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
วันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในรัชกาลที่ 9
เพื่อน้อมถวายสมเด็จย่า เนื่องในงาน"ตานหาแม่ฟ้าหลวง"ณ อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง(ไร่แม่ฟ้าหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
บุญพีร์ พันธ์วร เรื่องและภาพ
18 กรกฎาคม 2563











ดิฉันเคยมีโอกาสเข้าเรียนภาษาฝรั่งเศสที่สมาคมฝรั่งเศสจังหวัดเชียงใหม่ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์ตลอดเวลานั้นพระองค์ทรงพระดำเนินกับพระมารดาและทรงเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ผู้คนต่างถามถึงสมเด็จย่าว่าทำไมพระองค์ทรงงานหนักแม้ว่าพระองค์ทรงมีพระชนมายุมากแล้ว ในหลายๆโอกาสพระองค์ทรงพระดำเนินเยี่ยมชาวไทยภูเขาและทรงแนะนำให้พวกเขาเลิกปลูกฝิ่นและกัญชาแล้วหันมาปลูกดอกไม้ พืชผัก ผลไม้แทน
ดอยคำซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการหลวงจะมารับซื้อผลิตภัณฑ์การเกษตรจากชาวบ้านและชาวไทยภูเขา การเปลี่ยนวิถีชีวิตชาวบ้านในเวลานั้นไม่ง่ายดายนัก ในที่สุดโครงการก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีและมาตรฐานการดำรงชีพของผู้คนที่นั่นก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น



Flora Talk  ตานหาแม่ฟ้าหลวง  2
"กรองผกา..บูชาความดีพระสร้อยศรีเมือง....คิดถึงสมเด็จย่า"
18 กรกฎาคม  น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
วันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในรัชกาลที่ 9
ผลงานขันดอก โดยฝีมือการจัดดอกไม้ของคุณศักดิ์ชาย กาย  และทีมงาน รวม 12 ชิ้นงาน
เพื่อน้อมถวายสมเด็จย่า เนื่องในงาน"ตานหาแม่ฟ้าหลวง"ณ อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง(ไร่แม่ฟ้าหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
บุญพีร์ พันธ์วร เรื่องและภาพ
18 กรกฎาคม 2563



















เมื่อดิฉันได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาทรงสอนภาษาฝรั่งเศสที่คณะมนุษย์ศาสตร์และดิฉันเป็นลูกศิษย์ในชั้นเรียนของพระองค์ นักศึกษาถามพระองค์เกี่ยวกับเรื่องสมเด็จย่า พระองค์ทรงยิ้มและทรงบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกิจกรรมสำคัญที่พระองค์และมารดาของพระองค์ได้ทรงทำเช่นเดียวกับความยากลำบากในการเดินทางและทำงานในชนบทพร้อมกับกลุ่มแพทย์พยาบาล ทันตแพทย์ จักษุแพทย์ และศัลยแพทย์เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่นั่น
พระองค์ตรัสเสริมว่าสมเด็จย่าเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่แข็งแรงและมีสุขภาพดี ดิฉันได้อ่านหนังสือพระนิพนธ์เรื่องเวลาเป็นของมีค่า ของสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา หนังสือเล่มนี้บอกเล่าถึงเรื่องราวของสมเด็จย่าตอนมีพระชนมายุ 84 พรรษาในปีพ.ศ. 2527 รวมทั้งเรื่องของงานอดิเรกต่างๆ หนังสือสมุดภาพเล่มนี้มีภาพงานหัตถกรรมฝีพระหัตถ์ของสมเด็จย่าที่เคยวางจำหน่ายในงานการกุศล ผลงานบางชิ้นเป็นดอกไม้แห้ง งานเครื่อง ปั้นดินเผา งานเย็บปักถักร้อย สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าสมเด็จพระชนนีทรงชอบประดิษฐ์งานศิลปะในยามว่างและทรงเปิดเผยว่าไม่ได้เรียนศิลปะมาโดยตรงแต่ทรงทำเพราะความรักในงานศิลปะ

บ่อยครั้งที่พระองค์เสด็จไปที่เมืองโลซานน์ สวิสเซอร์แลนด์เพื่อพักผ่อนเป็นระยะเวลาสั้นๆ ต่อมาทางกองทัพและหน่วยงานต่างๆได้สร้างพระตำหนักดอยตุงขึ้นในจังหวัดเชียงราย ข่าวนี้ทำให้ประชาชนรู้สึกปลาบปลื้มปิติเมื่อทราบว่าพระองค์จะทรงกลับมาพักผ่อนในประเทศไทยและทรงจะพำนักที่พระตำหนักดอยตุง

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2535 ขบวนแห่ตุงเคลื่อนขบวนไปยังแม่ฟ้าหลวงชาวไทยในเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียงจัดเตรียมขบวนแห่ตุงเพื่อต้อนรับและเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิด ในเวลานั้นพระองค์มีพระชนมายุ 95 พรรษาขบวนแห่ตุงเดินขึ้นพระธาตุดอยตุง โดยปกติแล้วพิธีการนี้สำคัญกับชาว
เชียงรายและมีการจัดทุกปีแต่ปีนี้เป็นปีที่พิเศษสุดเพื่อถวายแก่สมเด็จย่าผู้เป็นที่รักของประชาชน















































ตุงเป็นธงพื้นเมืองที่ทำด้วยมือใช้ในงานพิธีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาและการเฉลิมฉลองของชาวล้านนา ตุงได้รวมเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเหนือมาระยะเวลาหนึ่ง รายละเอียด ชนิด และวิธีการใช้ตุงนั้นค่อนข้างต่างกัน แต่ละอันก็มีลวดลายและสีสันที่ต่างกันไป นอกเหนือจากนี้ผู้คนมากมายโดยเฉพาะผู้หญิงจะสวมชุดพื้นเมืองไทยล้านนาและชุดชาวไทยภูเขา ตุงถูกทำขึ้นมาเพราะความเชื่อและความรักที่มีต่อพระราชชนนีแม่ฟ้าหลวงหมายความตามตัวอักษรว่าเป็นมารดาของพระเจ้าแผ่นดิน ใน
ตอนเย็นมีพิธีการและการแสดงกลางแจ้งในปีนั้นเป็นพิธีการที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัด




















































Cr. : Boonpira Banvorn 

No comments:

Post a Comment

temp song